วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ปี 2566 เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 42,000 ล้านบาท และจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP เพิ่มขึ้น 0.12%
นโยบาย “ช้อปดีมีคืน 2566” จะเป็นการลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภันธ์ 2566 สำหรับผู้ที่มีเงินได้เป็นบุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล) เป็นการลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท
โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทดังต่อไปนี้
(1)ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจำนวน 30,000 บาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice หรือ e-Receipt)
(2)ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจำนวนอีกไม่เกิน 10,000 บาท จะต้องมี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt
หมายเหตุ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ไม่ได้หมายถึงใบเสร็จหรือใบแจ้งหนี้ฉบับดิจิตอลทั่วไป แต่จะต้องเป็นเอกสารที่ออกถูกต้องตามระเบียบของทางกรมสรรพากร โดยปกติแล้ว จะมีข้อความเขียนในเอกสารว่า “เอกสารนี้ได้จัดทำและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์” และมีการลงลายมือชื่อแบบดิจิตอล(Digital Signature) ขอให้ทำการติดต่อสอบถามกับห้างร้านเพื่อความถูกต้องแม่นยำ
สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการได้ที่นี่ https://etax.rd.go.th/etax_staticpage/app/#/index/registered#top
การใช้สิทธิลดหย่อนตามข้อ 1 และข้อ 2 ไม่รวมค่าสินค้าหรือบริการดังต่อไปนี้
(1) ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
(2) ค่ายาสูบ
(3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
(4) ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
(5) ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
(6) ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
(7) ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
(8) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
(9) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ (วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566) เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ
(10) ค่าประกันวินาศภัย
