JAL เปิดบริการใหม่สายการบิน Low Cost น้องใหม่แบรนด์ “ZIPAIR”! เครื่องใหม่ เวลาไฟลท์ดี ฟรี Wi-Fi ในเครื่องบิน!

นับตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2013 เป็นต้นมา กระแสความนิยมในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคนไทยก็มีเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย มีสายการบินลดราคาแข่งขันกันอย่างมากมาย มีการเปิดตัวสายการบินโลว์คอสต์เป็นจำนวนมาก โปรโมชั่นซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับญี่ปุ่นภายในราคาไม่ถึงหลักหมื่นมีให้เห็นกันอย่างเกลื่อนกลาดตา

จนกระทั่งในปี 2018 บริษัท สายการบินญี่ปุ่น มหาชนจำกัดหรือที่รู้จักกันในนามของ เจแปนแอร์ไลน์ (JAL) ได้กระโดดเข้ามาร่วมสงครามในศึกโลว์คอสต์ครั้งนี้ด้วย โดยจุดเริ่มต้นนั้นมีความหวังที่จะแข่งในศึกโลว์คอสต์กับสายการบินยักษ์ใหญ่ที่มารุกตลาดนี้อาทิ AirAsia X โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2020 เพื่อตรงกระแสกับช่วงโอลิมปิกฤดูร้อนที่โตเกียวในปี 2020

ทว่าก็เป็นที่ทราบกันดีกับวิกฤตการณ์โควิด-19 เลยทำให้กำหนดการเปิดตัวเป็นไปอย่างล่าช้ากว่าเดิม กระทั่งในที่สุดก็ไฟลท์แรกปฐมฤกษ์อย่างเป็นทางการกับประเทศไทยในวันที่ 3 มิถุนายน 2020

ปัจจุบันนี้ ZIPAIR มีการให้บริการทั้งหมด 6 จุดหมายรวมญี่ปุ่นได้แก่ สิงคโปร์, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา ไต้หวันและประเทศไทย จะมีแค่กับสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีให้บริการกับสนามบินสองแห่งคือ ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิสและ ท่าอากาศยานนานาชาติแดเนียล เค. อิโนเอ ที่โฮโนลูลู ฮาวาย

สิ่งอำนวยความสะดวกในเครื่องบิน

ข้อเสียของเครื่องบิน ZIPAIR คือไม่มีทีวีส่วนตัวให้ทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง Economy หรือ Business แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นพิเศษคือมีบริการให้ใช้ Wi-Fi ฟรีด้านบนเครื่องบินด้วย ทุกคนสามารถเชื่อมต่อ สามารถใช้อินเตอร์เน็ตในการเล่น SNS หรือดู YouTube ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร หรือจะรับชมภาพยนตร์ที่ให้บริการในระบบภายใน

นับว่าเป็นจุดเด่นที่ทรงพลังมาก เพราะกับสายการบินทั่วไปไม่มีบริการอินเตอร์เน็ตฟรีแบบนี้ ถ้าจะใช้จ่ายก็จะเสียค่าใช้จ่ายแพงมาก โดยทั่วไปแล้วราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 10USD และใช้ได้เพียงหลัก 10-30MB เท่านั้น

นอกจากนั้นทุกที่นั่งของ economy ก็ยังมีเบาะตรงศีรษะที่สามารถปรับได้ด้วย นับเป็นจุดเด่นที่โลว์คอสต์หลายที่ไม่ค่อยมีกัน รวมไปถึงมีปลั๊กไฟและช่อง USB ให้